7 แนวทางสอนลูกให้เชื่อฟังพ่อแม่และไม่ต้านทานเมื่อลูกเริ่มโต

[Hanako5]

ยิ่งลูกโตขึ้น การที่เราจะหวังลูกให้เป็นเด็ กเชื่อฟังสอนง่าย เป็นเรื่องย ากมาก ด้วยเหตุว่าลูกเริ่ม

มีความคิดเป็นของตัวเอง บางโอกาสก็พอใจสิ่งที่อยู่ข้างหน้ามากกว่า


บางเวลาลูกก็ไม่อย ากคุย ไม่อย ากทำในสิ่งที่พ่อแม่ปรารถนาสักเท่าไรนัก


ดังนั้นจึงใช้วิธีการทำหูทวนลม เฉยเมยต่อคำกล่าวของบิดามารดา รวมทั้งมันบางทีอาจเอามาสู่ การมีปัญหากันได้

1. กล่าวหาอะไร ที่ทำให้เขาไม่เชื่อฟัง

ถ้าหากลูกเป็นเด็ กที่ไม่เชื่อฟัง บางเวลาอาจเป็นเพราะเนื่องจากกำลังโก รธ เสียใจ

หรืออยากที่จะให้บิดามารดาเอาใจ สิ่งที่ควรจะทำเป็นพูดคุยแล้วก็ หาคำตอบ ว่าเพราะอะไรเพราะเหตุใด

ลูกไม่เชื่อฟังและบอ กรักลูกให้ลูกไว้ว่า มีบิดามารดาอยู่ข้างๆเสมอนะ

แล้วก็ดังนี้ควรสังเกตทัศนคติแนวทางคิดด้วย รวมถึงการพูดของลูก ก็เพื่อที่จะเข้าใจลูกมากขึ้นเรื่อยๆด้วยนั่นเอง

2. สอนด้วยการ ใช้วิธีแบบเข้าใจง่ายๆ

ด้วยเหตุว่าเด็ กอาจจะยังแบบว่า ฟังประโยคย าวๆพร้อมกันไม่รู้เรื่อง สิ่งที่ควรจะทำนั้นเป็น

ใช้เทคนิคสอนเขา ให้จำง่ายขึ้น อย่างเช่น มีมือเอาไว้ช่วย ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ว่ากล่าว หรือ กล่าวให้ตื่นเต้น


เช่น วันนี้ทำอะไรที่สถานที่เรียนบ้ าง หลี กเลี่ ยงคำว่า ไม่ หรือ ห้าม ด้วยเหตุว่าทำให้ลูก


ไม่อย ากทำต าม เป็นต้นว่า ห้ ามดื้อ ก็ควรกลายเป็น แม่ถูกใจลูก เวลาที่เชื่อฟังแม่ที่สุดเลยนะ

นอกจากนั้น พ่อแม่บางทีอาจเปลี่ยนมาใช้การให้คะแน น เพื่อลูกมีเป้าหมาย ในการเชื่อฟังมากเพิ่มขึ้นก็ได้นะ

3. สอนด้วยคำพูด สายตาที่ความรัก

เมื่อไรที่ลูกทำผิด คุณอาจจะทนไม่ได้ที่จะตะคอ กลูก จากคำบอกเล่าแร งๆของคุณ

ทั้งไม่สนใจฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบายด้วย แล้วก็การขึ้นเสียง การตะคอ กนั้นมันอาจจะก่อให้

ลูกสงบลงได้ก็จริงนะ แต่ถ้าว่าในอนาคต ลูกก็จะทำอีกอยู่ดี ดังนั้นแล้ว สิ่งที่ควรจะทำหมายถึงเริ่มจากดึงความสนใจ

ลูกด้วยการ เรียกชื่อลูกใช้คำบอกเล่าง่ายๆให้ลูกทบทวนในสิ่งที่ทำ ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ไม่ดุดัน

ให้ท่านลองแปลง เป็นบอ กทางป้องกั น จัดการกับปัญหาจะดีมากยิ่งกว่านะ นอ กจากคำบอกเล่ากับน้ำเสียงแล้ว

ภาษากาย ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกฟังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กล่าวกับเขาดีๆพูดด้วยสายตาแห่งความรัก แล้วคุณจะเข้าดวงใจลูกเพิ่มมากขึ้น

4.ฟังสิ่งที่ ลูกจะบอก

เนื่องจากบางคราว สิ่งที่บิดามารดาคิด มันก็ไม่ได้ถูกเสมอหรอกนะ เนื่องจากว่าเด็ กแต่ละคน

พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วก็สิ่งที่ควรทำ คือ ถามให้รู้ว่าลูกคิดอะไรทำไปเพื่ออะไร


และก็มีอะไรอยู่ในใจ ต่อจากนั้นควรตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกบอก เพื่อช่วยทำให้ลูกผ่อ นคล า ยความวิตกกังวลได้

5. สอนด้วย การมีกติกา ระหว่างกัน

แต่ทว่านะเด็ กทุกคน ก็มีอะไรที่ถูกใจ ที่เกลียดของตนเหมือนกันนะ และก็หลายครั้ง ที่คุณให้ลูก

ทำสิ่งที่รังเกียจ นานจนกระทั่งลูกเริ่มไม่เชื่อฟัง รวมทั้งสิ่งที่ควรจะทำนั้นเป็นเด็ กวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยแห่งการต่ อต้ าน

ด้วยเหตุนั้น ลองให้ข้อเสนอ เพื่อเป็นกติกาด้วยกันดูสิ เพื่อลดการโต้แย้งหรือการเชื้อเชิญสมุทร า ะลงได้

6. สอนลูก จากการเป็นแบบอย่ าง

ในตอนวัยเด็ ก เขาชอบลอ กเอาอย่าง พฤติก ร ร มของคนใกล้ชิด

และไม่สามารถแยกประเภทได้ ว่าอะไรไม่สมควร อะไรควร มันก็เลยทำให้หลายคราวลูกเผลอเลียน พฤติก ร ร ม

ที่มันไม่ดีของคนแก่ เมื่อถูกต่อว่าและก็ว่ากล่าวลูกจึงไม่รู้เรื่องว่า ทำไมพ่อแม่ยังทำได้เลยล่ะ

และก็การทำให้ลูกกำเนิดความสงสัย รวมทั้งพ่อแม่ไม่อธิบายนั้น มันก็เป็นสาเหตุ

ที่ทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อฟังบิดามารดา และก็สิ่งที่ควรจะทำนั้น คือ ลูกทำความเข้าใจจาก

พฤติกรรมได้ดีกว่าคำบอกเล่า ด้วยเหตุว่าถ้าอย่างนั้น พ่อกับแม่จะต้องเป็นตัวอย่ างให้ลูกเห็น ว่าอะไรทำได้ อะไรไม่สมควรทำ

7. สอนลูก ใช้สมอง แก้ปัญหาด้วยตัวเองได้

เนื่องจากว่าประโยคคำสั่งนั้น มันก็ทำให้ลูกมีความคิดว่า ตนเองไม่ได้การเอาซะเลยนะ

ทำอะไรก็ไม่ดี ดังนี้มันก็ส่งผลต่อให้ลูกไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองซะงั้น อีกทั้งบางทีอาจเปลี่ยนเป็นคนไม่มั่นใจไปเลย

ไม่กล้าที่จะคิดริเริ่มอะไรใหม่ๆสิ่งที่ควรจะทำนั้นหมายถึงจำเป็นต้องฝึกฝนให้ลูกใช้สมองและแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

ยกตัวอย่างเช่น ไหนลูกทดลองคิดสิว่าจะเอาตุ๊กต าตัวนี้ ไปเก็บไว้ไหนดีนะ และนอกจากนั้นควรจะหา

กิจก ร ร มบันเทิงใจๆทำร่วมกันกับลูกเมื่อคุณพ่อกับคุณแม่ มองเห็นลูกทำไม่ถูกต้อง


จะได้สอนลูกให้คิดไขปัญหา แทรกเรื่องของคุณงามความดี ศีลธรรมไปได้ด้วย โตมาเขาจะได้เป็นคนมีคุณภาพ
เทคนิค
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12945/