1 วัน ของบุคลากรที่ทำงานอย่างเราๆตับปฏิบัติภารกิจอะไรบ้าง ?

[kaidee20]

ชีวิตพนักงานสถานที่ทำงาน ส่งผลต่อตับ เป็นคำถามที่ดูเหมือนจะตอบยากด้วยเหตุว่าถ้า ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกในทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่บาดเจ็บเวลาใดก็ส่งสัญญาณเตือนทันที แต่ว่าสำหรับตับแล้วถ้าเกิดได้รับการประทุษร้ายตับก็จะสามารถปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมตัวเองแม้กระนั้นก็บางทีอาจจะไม่โชคดีเสมอไปพร้อมถ้าเกิดตับได้รับการทำลายอย่างมากแล้วก็สม่ำเสมอก็ส่งผลให้โรคตับแข็งหรือเป็น โรคมะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตบุคลากรสำนักงาน 1 วันอย่างเราๆนั้นสร้างภาระให้ตับได้มากแค่ไหนมาดูกัน

ข้าวเช้า ส่งผลต่อตับ 

มื้อเช้าที่เร่งรีบของหนุ่มสาวที่ทำงานจำนวนมากกับการดื่มกาแฟเพียงแต่ 1 แก้วหรือกระทั่งไม่ได้กินอะไรเลยทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นจะต้อง ซึ่งถ้าหากนับเวลาย้อนไปมื้อปัจจุบันที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำยิ่งกว่า 12 ชั่วโมง แสดงว่าตับคนที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานแล้วก็สารอาหารไปยังส่วนต่างๆภายในร่างกายนั้นต้องดึงไกลวัวเจนที่เก็บสะสมไว้มาเปลี่ยนเป็นพลังงานในเวลาเช้ารวมทั้งร่างกายยังจำเป็นต้องทดแทนคาร์โบไฮเดรตที่ใช้สำหรับในการเปลี่ยนเป็นพลังอย่างรวดเร็วจึงต้องรับประทานในมื้อถัดไปเยอะขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยซ้ำซึ่งแปลงเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตับในการทำงานมากขึ้น

มลพิษ สารพิษ ส่งผลต่อตับ

ตอนเช้ายังต้องเผชิญมลพิษบนถนนในทุกเมื่อเชื่อวันด้วยชีวิตที่รีบของคนกรุงในขณะนี้ที่จำเป็นต้องพบกับมลพิษต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ พิษกลุ่มนี้ เมื่อได้รับการสั่งสมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ผลที่ได้รับจากการวิจัยจากองค์กรอนามัยโลกบอกว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของคนเรานั้น ล้วนแล้วแต่มีปัจจัยเบื้องต้นเกี่ยวโยงจากการสัมผัสกับมลภาวะที่สะสมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานทั้งหมดมีผลต่อในร่างกายโดยยิ่งไปกว่านั้นตับที่เป็นศูนย์กลางและกรองสารพิษของร่างกาย

Fast Food ส่งผลต่อตับ

พอเพียงมื้อเที่ยงตรงต่างคนต่างเร่งรีบเนื่องจากว่าส่วนใหญ่พนักงานที่ทำงานจำเป็นที่จะต้องรีบหามื้อกลางวันในขณะเดียวกันซึ่งมื้ออาหารที่เหมาะสมกับขณะนี้โดยมากก็จะเป็นอาหารจานด่วนหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้โดยทันทีแต่ว่าอาจมีผลร้ายในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับ ด้วยเหตุว่าจำนวนมากอาหารจานด่วนนั้น มักจะมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน แล้วก็โซเดียมสูงเกินความอยากของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งถ้าหากมีไขมันพอกมากมายๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากเข้า มีผลเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ นำมาซึ่งสภาวะตับอักเสบ ตับแข็งและ โรคมะเร็งตับ ในที่สุด

ความเคร่งเครียด ส่งผลต่อตับ

ตกบ่ายมีเรื่องสะสมให้เกิดความตึงเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกทำให้ กระบวนการทำร้ายตับจากความเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนและฮอร์โมนในกรุ๊ปความเครียด ดังเช่นว่า คอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายจนกระทั่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับแล้วก็ทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการทำงานของภูมิต้านทานลดต่ำลงทำให้เกิดความย่ำแย่ต่อตับได้ เปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาประทุษร้ายได้มากขึ้น นี่คือสาเหตุว่าเพราะเหตุใดพวกเราถึงล้มป่วยจากความตึงเครียดได้

แอลกอฮอล์ ยาสูบ ส่งผลต่อตับ

แล้วก็ก่อนกลับไปอยู่ที่บ้านก็มีการสังสรรค์ ดื่มแอลกอฮอล์ ดูดบุหรี่ สนทนากับเพื่อนพ้องสถานที่สำหรับทำงานอีกทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่ว่าหารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เพราะเหตุว่าเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ทั้งพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และการสูดควันของบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปนเปและ สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนส่งผลให้เซลล์ตับเกิดการความเสียหาย แล้วก็แอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ สูงถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม จึงไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีภาวการณ์อ้วนอ้วน!!!

นอนน้อย ส่งผลต่อตับ

และในที่สุดกว่าจะได้นอนก็ยังนอนมืดค่ำ พักผ่อนน้อย จำนวนมากแล้วหนุ่มสาวออฟฟิตทั้งหลายแหล่ก็ยังมิได้นอนทำให้กระบวนการทำงานกำจัดพิษในตับดำเนินการได้ไม่เต็มที่ส่งผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาทั้งยังตับอักเสบได้ไม่ยาก ซึ่งตามทฤษฎีแล้วช่วงเวลา ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง เป็นเวลาที่จะเกิดกระบวนการกำจัดพิษในตับ ซึ่งควรจะต้องอยู่ในช่วงการนอนสนิท

จากการกระทำเพียงแค่ หนึ่งวันพวกเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกระยะเวลาเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือบากบั่นควบคุมและจากนั้นก็ทำเป็นยาก ด้วยเหตุนี้เราก็เลยต้องที่ต้องหันมาดูแลสุขภาพตับเราให้มีร่างกายที่แข็งแรง ก่อนที่จะไม่เหลือตับให้ดูแล