8 สิ่งที่คนทำงานประจำ ต้องพบ

[luktan1479]

1. อย่าเชื่อมั่นในตัวเองเกินไปในโลกอินเตอร์เน็ต

ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมั่นใจว่าโลกอินเตอร์เน็ตเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโพสต์อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แม้กระนั้นรู้รึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนอกเหนือจากการที่จะดู resume เราแล้ว ยังดูเฟสของเราด้วย เพื่อนพ้องพวกเราที่เป็น HR ยืนยันมาว่าหน้าเฟสบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราได้มากกว่า

Resume เป็นสิบเท่า สิ่งที่เราโพสลงบนโลกอินเตอร์เน็ตของเรานั้นส่งผลกับเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อพวกเราเป็นพนักงานประจำเต็มกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระวัง หรือ


ถ้าเกิดอย า กมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆชี้แนะให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาธาราที่พด้วย ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่ทำงาน เกลีย ดคนนั้น เบื่องาน หัวหน้างี่เง่า ห้ามโพสต์เด็ดขาด โพสต์ปุ้บมีคนแคปไปฟ้องแน่ๆ

2. จงเป็น "ผู้รับจ้างมือโปร"

ถ้าอย า กเป็นพนักงานประจำที่บรรลุเป้าหมายและก็แฮปปี้ ควรเป็น "ลูกจ้างมืออาชีพ" ให้ได้ ลูกจ้างมือโปรก็คือผู้ที่ใส่ใจได้ว่า "เราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าจ้างปริมาณหนึ่ง"

ซึ่งก็กล่าวได้ว่าบริษัทเค้าอยากอะไรบางอย่างจากเราแลกกับค่าแรงนั้นๆพวกเราต้องรู้ว่าบริษัทว่าจ้างเรามาทำอะไร รวมทั้งทำมันให้ดียิ่งกว่าที่บริษัทมุ่งมาดแม้ต้องการความเจริญในหน้าที่

หากงานที่ทำอยู่รู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่สมควรทรหดอดทนทำไป ควรหางานที่เราทำแล้วพวกเราเป็นสุขรวมทั้งทำได้ดีเพื่อดึงศักยภาพของตนออกมาให้เยอะที่สุด


นอกจากจะทำให้พวกเราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังทำให้เราพัฒนาตนเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย แต่ว่าก็ไม่ได้จะเชียร์ให้เป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ ทรหดอดทนทำไปจนถึงจุดหนึ่ง

พวกเราจะทราบเองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ใช่ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าผู้อื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกจำนวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าเกิดสุดท้ายเราพบสายอาชีพที่เรารักรวมทั้งอย า กทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมาก

และก็ ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน "พวกเราถูกจ้างมาด้วยค่าจ้างปริมาณหนึ่ง" อย่าทำงานมากเกินกว่าค่าตอบแทนจนถึงเกินความจำเป็น ทุ่มเทได้ แม้กระนั้นต้องมีผลที่ดีตามออกมาด้วย อย่างเช่นได้ปรับเงินเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับบิดามารดา ญาติๆบ้ า ง หันกลับไปมองด้านหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ตอนนี้เค้าเป็นอย่างไรกันบ้ า งนะ? อย่าลืมว่าบิดามารดาแก่ลงทุกเมื่อเชื่อวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้แก่คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ตรากตรำหรอก แลกเปลี่ยนกับความสุขของพ่อแม่

3. มีคนรักในสถานที่ทำงานได้แต่จำต้องยอมรับผลที่ตามมา

ถ้าหากคุณเป็นคนที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก ชี้แนะว่าอย่ามีคนรักในที่ทำงาน ไม่ได้บอกว่าไม่สมควรคบคนภายในที่ทำงาน แต่ว่าถ้าคบรวมทั้งจำเป็นต้องเห็นด้วยผลที่ตามมาให้ได้ บางทีอาจต้องเจอเหตุการณ์เป็นต้นว่า

เถียงกับแฟนมาแล้วจำเป็นต้องมาคุยงานกัน มีใครกันแน่บ้ า งแบ่งเรื่องเฉพาะบุคคลกับเรื่องงานออกจากงานได้ 100% บ้ า ง ถ้าไม่ต้องเจอหน้ากันทุกเมื่อเชื่อวันหรือทำงานใกล้ชิดก็ยังเพียงพอโอเค แม้กระนั้นถ้าทีมเดียวกันอาจจะอิดโรยหน่อย ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อไหร่รู้ทีค่อนบริษัท

4. หาคนที่เป็นมากกว่าสหายร่วมงานให้พบ

ความแตกต่างระหว่าง "เพื่อนพ้อง" กับ "เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน" เป็นอย่างไร...? ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนพ้องย า กก็คงจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย า กเท่าสมัยมัธยม แล้วก็ การหาสหายในยุคมัธยมก็ไม่อย า กเท่าตอนเข้ามหาวิทย า ลัย มันหมายความว่ายิ่งเราโตขึ้นเท่าไร พวกเราจะหาเพื่อนย า กขึ้นแค่นั้น และไม่จะต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องที่จริงใจคนนึงในออฟฟิศมันย า กเพียงใด นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องผล

ตอบแทน ทั้งยังตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การวัด เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราเป็นไปดำเนินงาน มิได้ไปทำกิจกรรมสานสโมสรหาเพื่อนพ้อง โดยเหตุนี้วันๆพวกเราจึงจะพบเพียงแค่เพื่อนฝูงร่วมทีม ซึ่งส่วนใหญ่และเป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้ววางใจแบบนี้ เรารู้สึกว่ามันคือผลกำไรชีวิต


พย า ย า มหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย า กไปทำงานมากขึ้น ให้เราทดลองถามตนเองว่า "ถ้าเกิดเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย า กนัดหมายคนนี้รับประทานข้าวอยู่ไหม...?" ถ้าคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้วววว

5. พึงพอใจแต่ว่าอย่าใส่ใจทางวิ่งคนอื่น จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา

เมื่อดำเนินการไปนานๆเราบางทีอาจเห็นเพื่อนๆในสถานที่ทำงานของเราหลายคนเริ่ม ออกไปเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางคนแปลงงานไปงานที่ค่าตอบแทนรายเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตนเอง

ไอคนนั้นคนนี้ก้าวหน้าแล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ ต้องจดจำไว้ว่าอย่าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆเด็ดขาด โฟกัสที่ทางวิ่งของเรา ทราบดีว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร

รู้ดีว่าปลายทางพวกเราอยากอะไร รู้ว่าวันนี้พวกเราปฏิบัติดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบมองทางวิ่งบุคคลอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงกระตุ้นตนเองให้พย า ย า มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าอย่าเอามาเปรียบเทียบกระทั่งทำให้ตัวเองทุกข์

6. เล่นการเมืองกับทุกคน

เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้มีความหมายว่าให้พวกเราไม่จริงใจกับผู้ใดกันแน่ แต่การเล่นการเมืองกับทุกคนคือ.. การที่เราดูว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้อย่างไร มิได้กล่าวว่าให้สตอเบอร์รี่ หรือฝ่าฝืนตนเองมากๆนะ แม้กระนั้นแต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชื่นชอบ โตมาในสังคมที่ต่างกัน การที่เราดูแล้วรู้ดีว่าจะ "อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร"

ได้อย่างไรจะมีผลให้เราดีกว่ามากๆเว้นแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางคนที่ดูแล้วผิดจริตกัน การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย า ท ไม่จำเป็นต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... เราไม่รู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงพวกเราเข้าไปทำงานกับคนไหนกัน ด้วยเหตุดังกล่าว อย่าสร้างศั ต รู เด็ดขาด...!!!

7. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนด่าทอตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุเรายังน้อยนี่เป็นข้อดีสุด เพราะว่า อายุยังน้อยความมุ่งมาดจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ทำอะไรไม่ถูกก็มักมีคนยกโทษเสมอ ถึงแม้พวกเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับการดำเนินงานสุดๆแต่เชื่อเถอะ พวกเราล้มเหลววันนี้ ดีมากกว่าพวกเราไปล้มตอนอายุ 50 ถึงวันนั้นจะไม่มีคนคุ้มกบาลพวกเราด้วยซ้ำ

8. พวกเราไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อทำงานสิ่งเดียว

เรามิได้ดำเนินงานแล้วแฮปปี้ทุกวัน หลายคราวที่พวกเรากลับไปบ้ า นแล้วอย า กจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ถ้าเกิดเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ยกตัวอย่างเช่น คิดบัญชีซื้ อ บ้ า น ซื้ อ รถ เที่ยวรอบโลก การเปลี่ยนมาทำเรื่องที่เราชอบจะทำให้ร่าเริงแจ่มใสขึ้น และก็เพิ่มความเชื่อมั่น เนื่องจากการเฟลจากที่ปฏิบัติงานส่วนใหญ่มักทำให้พวกเราเสียกำลังใจ

และก็ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง สำหรับเรามันมีผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน รวมทั้งอีกเพียบเลย ยกตัวอย่าง พวกเรามีเพื่อนพ้องคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย จริงจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร์อาทิตย์ เดี๋ยวนี้ดำเนินการประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย ตั้งใจปฏิบัติงานเกิดเรื่องที่ดี แม้กระนั้นหาอันอื่นทำบ้ า งชีวิตจะได้ไม่เฉาคาที่ดำเนินการ
ประจำพนักงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13496/