10 อย่างที่เราควรคิด เมื่อชีวิตล่มจม

[deam205]

1.This too shall pass สักครู่มันก็จะผ่านไป

ถ้าหากเราเป็นชาวพุทธ เราก็น่าจะรู้จักกับคำกล่าวสอนที่ว่า ทุกอย่ าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ รวมทั้งดับไป

ไม่ว่าความจะเป็นความสุข หรือ ความทุกข์ทรมาน มันก็จะไม่อยู่กับเราตลอดกาล สักครู่มันก็จะพ้นไป เพียงแค่เข้าใจถึงปกติข้อนี้


2.Somethings are going right มันก็มีบางเรื่องที่ดีบ้างหละ


ขณะที่เราจมอยู่กับความทุกข์ เราก็มักจะจุดโฟกัสอยู่กับปัญหา จนลืมมองดูถึงสิ่งดีๆเยอะแยะที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน

ให้ลองใช้วิธีการ gratitude journey มองนะคะ ลองเขียนขอบคุณ​หรือเขียนสิ่งที่ดีในวันแล้ววันเล่าดูแล้วพวกเราจะพบว่า

จริงๆแล้ว ในชีวิตเราก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นตั้งมากมาย ง่ายๆเลยเป็น พวกเราตื่นขึ้นมาอีกหนึ่งวันด้วยสุขภาพที่ดีบริบูรณ์

พร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหา แล้วก็สร้างผลดีให้กับโลกใบนี้ได้อีกตั้งหนึ่งวัน ฯลฯ

3.I have some control มีเรื่องมีราวที่ฉันสามารถควบคุมได้

เมื่อเกิดปัญหาสังกัดพวกเรา มันก็จะดูเหมือนกับว่าเราจัดการอะไรกับมันไม่ได้สักอย่ าง แต่ที่จริงแล้วสิ่งที่เราจัดการได้ ก็คือตัวเรา


ความนึกคิดเรา กรรมวิธีเลือกตอบสนองของเรา จงมีสติสัมปชัญญะ และก็ใช้ปัญญาสำหรับเพื่อการแก้ไขปัญหา


ที่สำคัญจดจำไว้ว่า ความสำราญหรือความทุกข์ กำเนิดที่ใจของพวกเราเอง ไม่ใช่คนอื่นๆเลย

4.I can ask for helpฉันอ้อนวอนได้

ไม่แปลกเลยถ้าพวกเราจะขอร้องเมื่อพวกเราอยากได้มัน เมื่อก่อนอื่นพวกเราควรพย าย ามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเราเองซะก่อน แต่

เมื่อมันเหนือบ่ากว่าแรง การเรียกร้องจากผู้อื่นก็ไม่ใช่เรื่องผิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในครอบครัวของเรา ผู้ที่รักพวกเรา พวกเขาพร้อมจะช่วยเหลือพวกเราเสมอ คุณมิได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้นะคะ

5.Much of this won't matter in a few years หลายเรื่องที่เกิดขึ้น ในอีกไม่กี่ปีด้านหน้ามันก็จะไม่จำเป็นอะไรอีกต่อไป

นึกถึงตอนพวกเราเป็นเด็กสิคะ ปัญหาอันใหญ่หลวงของเราก็คือ การลืมสมุดการบ้าน

เรารู้สึกเครียดเหมือนโลกจะถล่มทลายมากมายๆแต่ว่าเพียงพอเราโตขึ้น เราดูย้อนกลับไป

เราก็หัวเราะให้เรื่องนั้นๆได้ ปัญหาทุกปัญหาผ่านมาเพื่อทำให้เรา กล้าแกร่ง รวมทั้งเติบโตขึ้น

เมื่อคุณผ่านมันไปได้ เรื่องนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เปรียบได้เสมือนดั่งเรื่องสมุดการบ้านในวัยเด็กของคุณเพียงเท่านั้น

6.I can handle this ฉันจัดการมันได้

ไม่มีใครจะเชื่อมั่นในตัวเรา ถ้าพวกเราไม่แน่ใจในตัวเราเองก่อน ไม่มีผู้ใดจะช่วยพวกเราได้ตลอด แม้พวกเราไม่ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ว่าจะกำเนิดปัญหา

อะไรขึ้นในชีวิต ควรมีสติสัมปชัญญะ แล้วให้กำลังใจกับตนเองว่า ฉันจะจัดแจงมันได้


แม้ว่าเวลานี้พวกเราจะรู้สึกแย่เพียงไหน ก็ต้องจดจำไว้ว่า พวกเราจะผ่านมันไปได้


7.Something good will come out of this เรื่องดีๆจะมีต้นเหตุที่เกิดจากเหตุนี้

เหรียญยังมีสองด้าน ราวกับๆกับทุกเรื่องราวในชีวิตของเราที่มีนานัปการดูให้เลือกดูในวันที่เราพบเจอปัญหา

ได้แก่ คนที่พวกเรารักและก็ทุ่มเททุกอย่างทุกอย่ างให้ กลับมาทิ้งพวกเราไป นั่นอาจเป็นบทเรียนและก็บททดลองที่สำคัญ

ที่ทำให้พวกเรากลับมารู้จักรักตนเอง แล้วก็เห็นค่าของตนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำอะไรดีๆให้ชีวิต แทนที่จะเสียเวลาไปกับความทุกข์ใจ

เหมือนก่อนหน้านี้ แล้วก็ผลที่เกิดก็คือ ชีวิตเราดียิ่งขึ้น พัฒนาไปตามที่พวกเราได้มุ่งมาดไว้ ด้วยฝีมือของพวกเราเอง ฯลฯ ต้องมองหาจุดเด่นให้เจอ

8.I can accept what's out of my control ฉันสามารถสารภาพในสิ่งที่อยู่นอกจากการควบคุมของฉันได้

ในชีวิตจริงมีปัจจัยมากมายก่ายกองที่พวกเราไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้ ยิ่งเราอย ากควบคุมมันเยอะแค่ไหน อย ากไปบังคับมันเท่าไร เรายิ่งเป็นทุกข์

กระบวนการทำใจเห็นด้วยเรื่องจริงข้อนี้ให้ได้ แล้วก็ปล่อยวาง เอาพลังกาย พลังใจที่มีไปทุ่มเทให้กับสิ่งที่พวกเราควบคุมได้ โน่นเป็น ตัวเราเองดีมากกว่า

9.I have overcome past difficulties ฉันเคยผ่านเรื่องย ากๆมาแล้วในชีวิต

บางครั้งการย้อนไปมองดูการบรรลุเป้าหมายก่อนหน้านี้ก็ช่วยเราได้ ความตั้งอกตั้งใจ ความพย าย าม

หรือเรื่องราวย ากลำบากก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาแล้วในอดีต เรายังเคยผ่านมันมาได้

แล้วก็นี่ก็เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งบททดสอบที่พวกเราก็จะผ่านมันไปได้เหมือนกัน

10.I need to take care of myself ฉันจำเป็นต้องดูแลตัวเอง

ไม่มีผู้ใดจะรักพวกเราได้มากพอๆกับพวกเรารักตัวเองค่ะ ด้วยเหตุดังกล่าว จงดูแลสุขภาพทางกาย สุขภาพดวงใจของเราให้ดี

ในชีวิตนี้มีเรื่องราวอีกเพียบเลยที่คอยเราอยู่ อย่ าหยุดตัวเอง เพียงแค่ปัญหาชั่วครั้งคราวในวันนี้ สู้ถัดไปนะคะ
เตือนสติ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13250/
คำค้นหา : ข้อคิด