โพรไบโอติก (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติ หลายคนอาจสงสัยว่า ร่างกายจะเป็นอย่างไรเมื่อได้รับโพรไบโอติกมากเกินจำเป็น?
(http://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2025/03/%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%B0.webp)
ทำความรู้จักโพรไบโอติกและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ โพรไบโอติก (https://www.rophekathailand.com/post/l/probiota/probiotic/)ช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร พบได้ใน อาหารหมักดอง เช่น มิโสะ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
✅ โพรไบโอติกมีผลดีอย่างไร?
- ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้
- เพิ่มการป้องกันร่างกายจากแบคทีเรียไม่ดี
- ช่วยป้องกันปัญหาท้องอืด และปรับสมดุลขับถ่าย
- อาจช่วยควบคุมน้ำหนัก และปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย
การรับประทานโพรไบโอติกมากไป มีผลเสียไหม? แม้ว่าโพรไบโอติกจะมีประโยชน์ แต่มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ เช่น
1️⃣ เกิดอาการแน่นท้อง และมีแก๊สสะสม
- โพรไบโอติกช่วยกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้
- รับประทานมากไป อาจทำให้รู้สึกอึดอัดที่ช่องท้อง
2️⃣ ท้องเสีย หรือระบบขับถ่ายผิดปกติ
- ลำไส้อาจขับของเสียออกเร็วผิดปกติ
- อาจทำให้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ
3️⃣ ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
- ถึงแม้จะดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ คน
- แต่สำหรับผู้ที่มี ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคร้ายแรง หรือผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ อาจมีความเสี่ยงติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ควบคุมไม่ดี
ปริมาณโพรไบโอติกที่แนะนำต่อวัน 🔹 ควรรับประทานในปริมาณที่สมดุล ไม่เกิน 10 พันล้าน CFU ต่อวัน
🔹 การรับประทานจากอาหารธรรมชาติ เช่น ผักดอง และโยเกิร์ต ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
โพรไบโอติกมีประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้และภูมิคุ้มกัน แต่ มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองในทางลบ
🥗 ทางที่ดีควรปรับสมดุลลำไส้ด้วยอาหารที่มีใยอาหารสูง ดื่มน้ำเพียงพอ และออกกำลังกายควบคู่กัน