(https://img2.pic.in.th/pic/0025e28ec7af9618798.jpg)
(https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset) พิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
การพิมพ์นามบัตรนั้นเดิมทีถูกใช้ในลัษณะของการแนะนำตัวของตัวเองให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกฝ่ายสามารถจดจำตนเองได้ดิบได้ดีขึ้น รวมถึงทำให้อีกข้างรู้โปรไฟล์ของพวกเราโดยคร่าวๆได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ในการพิมพ์นามบัตรแจกนั้นได้รับความนิยมกันอย่างยิ่งในอดีตในสมัยที่ยังไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่
ด้วยเหตุว่าหากอยากเขียนเบอร์โทรศัพท์จำต้องใช้การเขียนลงสมุดแล้วต้องซักถามรายละเอียดที่ได้มาจากบุคคลนั้น ซึ่งบางครั้งก็อาจจะไม่
สะดวกและทำให้เสียเวลาอย่างมาก โดยเฉพาะแม้มีการสัมมนาหรือพบปะสนทนาคนอื่นๆด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรจึงนับเป็น
ความจำเป็นอย่างเสียมิได้
ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการเสนอแนะตนเองและโปรไฟล์ได้หลากหลายแนวทาง แต่แม้ว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตรไม่ใช่แค่เพียงเป็น "Name Card" แม้กระนั้นแปลงเป็น "Business Card" ซึ่งมีความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ สำหรับเพื่อการติดต่อธุรกิจกับผู้อื่นนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นสิ่งที่จำเป็นมากมายในขณะนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นค่านิยมของประเทศญี่ปุ่นนั้นจัดว่าให้พกนามบัตรติดตัวตลอดเวลาและก็ให้ความสำคัญมากมาย
กว่ากระเป๋าธนบัตรอีกด้วย เนื่องจากหากมีการพบเจอบุคคลภายนอกกระทั่งมีการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรนับว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น ดังนั้นการพิมพ์นามบัตรก็เลยมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดไม่ใช่แค่ในเชิงธุรกิจแต่ว่ารวมทั้งคนทั่วๆไปด้วย
ลักษณะของนามบัตรนั้นจะต่างกันออกไปตามเป้าประสงค์การใช้งาน เป็นต้นว่า ใช้แนะนำเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ เป็นต้น โดยเนื้อหาข้อมูลในการพิมพ์นามบัตรจะแตกต่างออกไป โดยทั่วไปข้อมูลเบื้องต้นที่จะต้องมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหนหมายถึง1.ชื่อ – สกุลของเจ้าของบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางติดต่อโดยจะเป็นวิธีใดก็ได้อย่างใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายชนิดก็ได้ตามแต่สบาย ซึ่งในปัจจุบันเว้นแต่เจาะจงเบอร์โทรศัพท์ มือถือ ที่อยู่ บางทีก็อาจจะเพิ่มเติมที่อยู่อีเมล
facebook LineID เพิ่มเป็นต้น แม้กระนั้นถ้าเป็นการพิมพ์นามบัตรเพื่อธุรกิจก็ต้องมีเพิ่มในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ แล้วก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมทั้งการใช้อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ศัทพ์บางครั้งอาจจะควรเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
เชื่อใจเป็นต้น
งานเอกสารนามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งแรงพอสมควร ไม่ควรบางหรืออ่อนตัวจนถึงเกินความจำเป็น ซึ่ง
ขนาดอาจจะมีแตกต่างกันออกไปบ้างเล็กน้อยแต่ไม่สมควรต่างจากขนาดมาตรฐานมากนัก โน่นเป็น 3.5 x 2.125 นิ้ว เพราะว่าขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์มาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่เข้ากับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้ควรจะมีความหนา
260 มึงรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตรนั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยปัจจุบันนิยมพิมพ์สองด้านโดยจะมักจะกำหนดเนื้อหาเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งแล้วก็ภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งถือว่าเหมาะสมสำหรับในการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะมีคนต่างชาติรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้เกิดความสวยสดงดงามนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ สำหรับ
คนที่ไม่รู้ท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวถ้าเกิดได้มองเห็นนามบัตรที่ดูภูมิฐานก็จะมีผลให้เชื่อถือว่าบริษัทท่านจะต้องดูน่าไว้ใจตามไป
ด้วย การตกแต่งเพิ่มเติมในกับนามบัตรจึงเป็นที่นิยมกันอย่างล้นหลาม ดังเช่น การเคลือบ UV ฉาบเงา ฉาบด้าน เคลือบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทอง รวมทั้งอื่นๆอีกมากมายขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละท่านนั่นเอง