ข้อควรรู้ของ บริการขนส่งสินค้าอันตราย^^

[Joe524]

     การขนส่งสินค้าอันตรายเบื้องหน้าเบื้องหลังการขนส่งสินค้าอันตรายหนึ่งในบริการสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับอุตสาหกรรมของไทย

     ดูเหมือนจะทุกแวดวงอุตสาหกรรมในประเทศไทย ล้วนจำเป็นต้องใช้วัตถุอันตราย เป็นสารขึ้นต้นในแนวทางการการสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างแดนเพื่อนำมาผลิต ผสม ประกอบ กับวัตถุดิบหรือสารเริ่มต้นในประเทศ เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆอุตสาหกรรมที่ต้องใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตมีความมากมายมาก ดังเช่นว่า อุตสาหกรรมสี เครื่องสำอาง ยาฆ่าแมลงและยาฆ่าแมลง ผงชูรส ฯลฯ



ติดต่อและอ่านรายละเอียดได้จาก >> การขนส่งสินค้าอันตราย https://www.scgjwd.com/th/services/logistic-and-supply-chain/b2b-integrated-logistics/1697441373

     ข้อแรกเรามารู้ถึงความหมายของคำว่า "ผลิตภัณฑ์อันตราย" คือ ข้าวของหรือวัตถุ ที่มีคุณสมบัติทางเคมี หรือ ทางกายภาพโดยตัวของมันเอง หรือเมื่อสัมผัสกับสารอื่น ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต เงินทองหรือต่อสภาพแวดล้อม ดังที่กำหนดเอาไว้ภายใน IMDG

     ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าอันตรายมีกี่ประเภท

     1 วัตถุระเบิด

     2 แก๊สไวไฟ

     3 ของเหลวไวไฟ

     4 ของแข็งไวไฟ สารที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง รวมทั้งสารที่สัมผัสกับน้ำแล้วทำให้มีการเกิดแก๊สไวไฟ

     5 วัตถุออกสิไดซ์และก็วัตถุอินทรีย์เปอร์ออกไซด์

     6 วัตถุเป็นพิษและวัตถุติดเชื้อ

     7 วัตถุกัมมันตรังสี

     8 วัตถุกัดเซาะ

     9 วัตถุอันตรายต่างๆที่อยู่นอกจากอีกทั้ง 8 ชนิด ข้างต้น

     สำหรับในการนำเข้าและก็ส่งออกผลิตภัณฑ์อันตรายในประเทศไทยกว่า 70% จะขนส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบังเป็นหลัก เนื่องมาจากเป็นท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยและก็เป็นท่าเรือที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีมาตรการบริหารความปลอดภัยเท่ากันสากล ฉะนั้นในทุกกิจกรรมซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อันตรายไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ ใส่ ขนส่ง จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังมหาศาล ถึงแม้ว่าสินค้าอันตรายนั้นจะมีปริมาณเพียงนิดหน่อยแม้กระนั้นอาจจะก่อให้ได้รับอันตรายต่อชีวิต เงิน สภาพแวดล้อม ก็เลยมีการออกกฎ ระเบียบ กฎเกณฑ์ต่างๆเพื่อควบคุมในเรื่องดังกล่าว เพื่อคุ้มครองปกป้องความทรุดโทรมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งระเบียบข้อบังคับดังที่กล่าวผ่านมาแล้วนั้นสอดคล้องกับระเบียบที่ใช้กันระหว่างประเทศหมายถึงองค์การสหประชาชาติ มีการออกข้อแนะนำในการขนส่งสินค้าอันตราย และก็ได้กำหนดตัวเลขที่เรียกว่า UN number เพื่อใช้แทนชื่อสินค้าอันตรายที่มีการขนส่งอยู่บ่อยมาก องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO มีการออกข้อกำหนดรวมทั้งข้อที่ควรปฏิบัติระหว่างประเทศ



     การขนส่งสินค้าอันตราย ด้านในท่าเรือแหลมฉบัง

     ผู้นำเข้าสินค้าอันตรายกรอกข้อมูลลงในระบบเน็ตเวิร์กข้อมูลและการสื่อสารเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออก การจัดเก็บ และการขนส่งผลิตภัณฑ์ ล่วงหน้าราวๆ 1 สัปดาห์ ซึ่งประกอบด้วย ชื่อสาร ชื่อผู้นำเข้าส่งออก รวมทั้งกระบวนการจัดแจงกับสารเมื่อเกิดเหตุรีบด่วน เมื่อทีมงานคลังที่เอาไว้เก็บสินค้าได้รับข้อมูลจะประสานไปยังท่าเทียบเรือต่างๆเพื่อตรวจดูสถานะตู้สินค้าอันตรายตามข้อมูลที่ได้รับ ถ้าหากข้อมูลถูก จะกระทำการส่งรถยนต์หัวลากเพื่อไปรับตู้สินค้าข้างลำเรือ โดยไม่สามารถที่จะวางพักผลิตภัณฑ์อันตรายที่ท่าเรือได้ระหว่างรอคอยขนส่งไปยังโกดังเก็บสินค้าอันตราย เมื่อรถขนส่งรับตู้สินค้าอันตรายเป็นระเบียบเรียบร้อย จะขนส่งมาจัดเก็บที่ท่าผลิตภัณฑ์อันตรายในทันทีซึ่งจะต้องมีการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับจัดเก็บอย่างปลอดภัย รถขนส่งวัตถุอันตรายควรจะมีลักษณะภาวะตัวรถยนต์ องค์ประกอบและอุปกรณ์ความปลอดภัยตามเกณฑ์ควบคุมมาตรฐานของลูกค้าหรือที่กฎหมายระบุ มีประกันภัยความเสียหายของวัตถุอันตรายในกรณีเกิดอุบัติเหตุ มีระบบการควบคุมทางในรถขนส่งทุกคัน ด้วย GPS Tracking ซึ่งไม่แค่เพียงแสดงตำแหน่ง ทาง หรือการควบคุมความเร็วเท่านั้นแต่ว่ายังสามารถย้อนมองประวัติความเป็นมาและก็อัพเดทข้อมูลการขนส่งได้อย่างมีคุณภาพ พนักงานขับรถทุกคนต้องมีใบอนุญาตประเภทที่ 4 ผ่านการตรวจสอบประวัติ ได้รับการตรวจสภาพร่างกาย เพื่อความพร้อมสำหรับเพื่อการทำงาน และได้รับการฝึกอบรมการขับขี่เพื่อความปลอดภัยและการอมรมการปฐมพยาบาลพื้นฐาน

     วิธีการขนส่งสินค้าอันตรายอย่างมั่นใจรวมทั้งปลอดภัย

     1. คลังที่เอาไว้เก็บสินค้าต้องได้มาตฐานตามกรอ.

     2. มีระบบระเบียบคุ้มภัยและเหตุฉุกเฉินในกรณีเกิดเหตุรั่วไหลของสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์อันตรายอย่างเช่น ระบบโฟมอัดแรงกดดันสูง ผนังกันไฟ ระบบประตูกันไฟอัตโนมัติ เครื่องตรวจหาควันหรือเปลว หรือระบบแจ้งเตือนเมื่อุณหภูมิด้านในห้องเปลี่ยน (ในกรณีสารเคมีหรือสินค้าอันตรายที่จำต้องเก็บเอาไว้ภายในห้องควบคุมอุณหภูมิ)

     3. มีระบบระเบียบซอฟแวร์สำหรับจัดการทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่จัดเก็บ เริ่มตั้งแต่ระบบจัดเก็บฐานข้อมูลสินค้าอันตราย การจัดสรรพื้นที่สำหรับเพื่อการจัดเก็บสารเคมีแต่ละจำพวกออกมาจากกัน เพราะเหตุว่าสารเคมีบางประเภทจะทำปฎิกิริยาเคมีต่อกันซึ่งอาจได้รับอันตรายได้

     4. การเจาะจงตำแหน่งตู้สารเคมีด้วย GPS และก็การขนส่งสินค้าอันตราย เพื่อปิดโอกาสข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากคน

     5 มีนักเคมีที่ช่ำชอง สามารถให้คำปรึกษา หรือขจัดปัญหาเกี่ยวกับการจัดเก็บสารเคมีหรือสินค้าอันตรายจำพวกต่างๆ

     6. มีทีมเร่งด่วน 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเข้าจัดการเรื่องฉุกเฉินได้อย่างทันทีทันควัน

     ระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อันตรายเป็นข้อมูลที่มีค่ามาก

     เพราะเหตุว่าการจัดเก็บและขนส่งผลิตภัณฑ์อันตรายนั้นจะต้องทำงานอย่างรอบครอบ รอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของ ชีวิต ทรัพย์สิน และก็สภาพแวดล้อม เพราะฉะนั้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอันตรายที่ขนส่งนั้นจึงมีความจำเป็นเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากสถานะการณ์สารเคมีรั่วไหลที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2552 ด้วยเหตุว่าไม่มีข้อมูลของผลิตภัณฑ์อันตรายที่บรรจุอยู่ในตู้ผลิตภัณฑ์ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะทำยับยั้งเหตุ เพราะสารเคมีบางจำพวกเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำแล้วจะมีผลให้เกิดการระเบิดขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้หากทราบข้อมูลที่จำเป็นต้องได้ทันแย้งที ก็จะสามารถจัดการได้อย่างถูกแนวทางและก็ทันทีทันควัน เพื่อบรรเทาหรือนิยามเสียหายที่เกิดขึ้น

     SCGJWD Logistic ผู้ประกอบกิจการรายเดียวที่ให้บริการบริหารกุดังอันตราย ขนส่งสินค้าอันตราย ภายใต้การควบคุมดูแลของท่าเรือแหลมฉบัง ปฏิบัติภารกิจบริหารจัดแจงตู้ผลิตภัณฑ์ ทั้งยังนำเข้าและส่งออก 100% ที่ผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ด้วยมาตรฐานการจัดการระดับสากลและตามประกาศโรงงานอุตสาหกรรม

     ในฐานะผู้บริหารแบกรับหนี้สินอันตราย SCGJWD จึงคิดค้นของใหม่บริหารจัดแจงผลิตภัณฑ์อันตรายแบบครบวงจร (DG Total) เพื่อเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลสินค้าอันตรายจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวพัน กับ การขนส่งสินค้าอันตราย ประกอบด้วยซอฟต์แวร์บริหารจัดการตู้ผลิตภัณฑ์ตามคลาสที่ระบุ ระบบ GPS สำหรับเพื่อการหาพิกัดตู้ผลิตภัณฑ์อันตราย และก็ศูนย์ความปลอดภัยผลิตภัณฑ์อันตราย ซึ่งประกอบด้วยนักเคมีและก็กลุ่มโต้กลับเรื่องด่วน 24 ชม.



ที่มา บทความ การขนส่งสินค้าอันตราย https://www.scgjwd.com/th/services/logistic-and-supply-chain/b2b-integrated-logistics/1697441373